Gag

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

First Impression กับที่ทำงาน

   ในเช้าวันหนึ่งหลังจากทีออยได้เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองกรุง ซึ่งยังไม่เคยผ่านการทำงานที่ใดมาก่อน ได้ผ่านการสัมภาษณ์งานจากบริษัทที่ตนเองใฝ่ฝันอยากทำมากที่สุด และจะได้เข้าทำงานในเดือนหน้า

   ออยมุ่งมั่นเพื่อที่จะเป็นพนักงานที่ดี เพื่อที่จะได้อัพเงินเดือนขึ้นไปสูงๆ โดยออยได้ตั้งเป้าว่าก่อนอายุ 30 อยากจะมีเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท/เดือน โดยปัจจุบันออยเริ่มทำงานเงินเดือน Start 15,000 บาท


   เช้าทำงานวันแรกช่างดูสดใสและน่าตื่นเต้น ออยเดินทางไปถึงที่ทำงานแต่เช้า เพราะยังไม่รู้ว่าลักษณะการทำงานเป็นอย่างไร การไปถึงไวไว้ก่อนคงจะเป็นการดี เพื่อแสดงให้ทุกคนรู้ว่าเราพร้อมที่จะทำงานจริงๆ หลังจากทุกคนในที่ทำงานมากันพร้อมหน้า หัวหน้าก็เรียกออยเข้าไปคุยในห้องทำงาน และพาออยไปทำความรู้จักกับพี่ที่ทำงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง

   เข้าสู่ช่วงเวลาการทำงาน ทุกคนขมักเขม้นกับการทำงานกันหมดทุกคน ยกเว้นออยเพียงคนเดียว ด้วยความที่รู้สึกว่าตนเองนั้นไม่มีอะไรทำ จึงไปถามพี่ๆว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ แต่ทุกคนก็บอกไม่ว่าง ลองไปถามคนนู้นคนนี้ดู แม้ออยจะเขินอย่างมากแต่ก็พยายามเดินไปถามจนครบทุกคน ก็ไม่มีงานให้ออยทำเลย จนกระทั่งช่วงเกือบเที่ยง พี่ที่ทำงานคนหนึ่งซึ่ดูมีความรู้เข้ามาและบอกว่าช่วยทำงานนี้ให้หน่อย ด้วยความที่อยากช่วย ออยจึงตอบตกลงทันที ส่วนพี่คนนั้นก็เดินกลับไปที่โต๊ะเหมือนเดิม

   ออยได้มีงานทำแล้ว แต่ !! งานที่ได้มาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะถูกต้อง แม้จะรู้วิธีการทำจากพี่ที่ทำงานแล้ว แต่ออยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เอกสารต่างๆยิ่งดูแล้วยิ่งงง ออยเริ่มกังวลว่าจะทำไม่ได้ จึงลองชะเง้อมองพี่คนนั้น ว่าเขาว่างพอที่จะให้ไปถามได้หรือไม่ เมื่อออยเห็นว่าพี่คนนั้นพอจะว่างอยู่ จึงรีบเดินเข้าไปถามทันที

ออย : พี่คะ ไม่ทราบว่าเอกสารนี้ต้องกรอกหมดทุกส่วนเลยหรือเปล่า

พี่ที่ทำงาน : เอ้า ! ก็ต้องกรอกหมดทุกส่วนสิ จะเว้นไว้ทำไม

ออย : เอ่อ ขอโทษค่ะ แต่หนูไม่ทราบว่าตรงส่วนนี้จะดูจากเอกสารไหนถึงจะนำมาใส่ได้น่ะค่ะ

พี่ที่ทำงาน : นี่เรียนมาหรือเปล่าเนี่ย เรื่องแค่นี้ทำไมทำไม่ได้ ถ้าไม่รู้ก็ลองไปถามพี่คนอื่นดูนะ พี่ขอตัวทำงานก่อน

ออยรู้สึกกดดันเพราะถูกว่าเสียงดัง พร้อมกลับตอบไปว่า "อ่อได้ค่ะ"

   ออยรู้สึกผิดอย่างมาก และรู้สึกว่าตนเองเป็นจุดด้อยของสังคมที่ทำงาน ออยกลับมาที่โต๊ะทำงานพร้อมกลับดูเอกสารเหมือนเดิม ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ออยพยายามมองหาคนที่ว่างอยู่ทุกคนกลับตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันหมดทุกคน ออยจึงไม่กล้าเดินเข้าไปถาม เพราะกลัวจะโดนว่ากลับมาอีก

   ออยพยายามดูเอกสารแล้วกรอกในส่วนที่ตนพอจะเข้าใจ ผ่านไปสักพัก หัวหน้างานเดินมาทักทายแล้วถามกับออยว่า "ทำงานเป็นอย่งไรบ้าง งานยากไหม"

ออย : ก็พอได้ค่ะ แต่หนูยังไม่ค่อยเข้าใจว่าส่วนนี้ต้องกรอกยังไงคะ ?

หัวหน้า : เอ้า ! แล้วทำไมไม่ถามพี่ๆคนอื่นล่ะ ถามพี่ๆเค้าได้เลย เวลาเราไม่รู้อะไร

ออย : อ่อได้ค่ะ หัวหน้า ขอบคุณค่ะ

   หัวหน้าเดินออกไปหาลูกค้า ส่วนออยยิ่งเครียดขึ้นไปกว่าเดิม สิ่งที่ออยคิดในตอนนี้คือ

- ไม่สอนงานเราเลย แล้วจะทำงานนี้ได้ยังไงล่ะเนี่ย
-  จะไปถามคนอื่น ก็กลัวคนอื่นว่าอีก จะไม่ถามก็โดนหัวหน้าว่าทำไมไม่ถาม โอย นี่มันอะไรกัน !!
ทำไมการทำงานมันยากลำบากแบบนี้

   ออยเริ่มหัวเสียและเครียดมากขึ้น จนเริ่มคิดว่าตนเองคงจะไม่เหมาะกับงานนี้ เมื่อไรวันนี้มันจะจบเสียที ต่อให้วันนี้จบไป พรุ่งนี้เราก็อาจจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่เอาแล้วได้ไหม ไม่อยากทำงานแบบนี้แล้ว ต่อจะให้เป็นบริษัทในฝันก็เถอะ แต่บรรยากาศที่ทำงานมันไม่ได้ เราก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

   -------------------------------------------------------------------------------------------------------

   คุณผู้อ่านคงจะได้อ่านกันจบแล้ว หลายคนคงจะรู้สึกสงสารออย ที่ไม่มีใครใส่ใจเลย มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับใครหลายๆคน ทุกๆคนย่อมกังวลในวันเริ่มงานวันแรก ไม่รู้เราจะทำงานนี้ได้หรือเปล่า มาทำงานก็ไม่รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง ฉันตัวคนเดียวจะเอาตัวรอดได้ไหม แต่สิ่งที่จะทำให้เด็กจบใหม่หรือผู้ที่เริ่มทำงานวันแรกรู้สึกประทับใจมากที่สุด มันคือ "First Impression"

   คนทำงานมาหลายๆปีมักจะไม่ค่อยเข้าใจ และก็จะออกเหตุผลว่า "ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไป มาทำวันแรกยังทำไม่ได้ วันอื่นก็ทำไม่ได้หรอก" เพราะอะไรน่ะหรือ ? เพราะเขาไม่รู้จักตัวตนของเด็กจบใหม่ว่าเขาคิดอย่างไร พอตัวเองผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ไม่สนแล้วว่ารุ่นเด็กกว่าเราลงไปจะรู้สึกอย่างไร ผมจึงอยากให้หลายๆคนให้ความสำคัญกับ First Impression กับน้องเข้างานคนใหม่ เพื่อทีจะทำให้น้องๆมีกำลังใจในการทำงาน

   บรรยากาศการทำงานที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในหน้าที่การงาน คงจะไม่มีใครหรอกที่จะทำงานที่มีแต่เพื่อนร่วมงานเกลียด สักวันก็คงต้องออกจากจุดนั้นอยู่ดี



    งานอะไรที่รุ่นน้องทำผิดพลาด ให้รู้จักให้อภัย อย่าถือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ว่าง่ายแบบนี้ทำไมทำไม่ได้ เพราะคุณผ่านการทำงานนั้นมาไม่รู้เท่าไร มันก็ต้องง่ายสิ แต่กับเด็กจบใหม่ มันคือสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าเราไม่เป็นวิทยาทานที่ดีให้กับเขาได้ แล้วเขาจะพึ่งใครล่ะ ที่สำคัญคือ ห้ามพูดกับรุ่นน้องว่า "ไปทำมาใหม่" มันไม้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยครับ จริงอยู่ว่าคุณไม่พอใจที่รุ่นน้องทำงานได้ไม่ดีพอ แต่รุ่นน้องที่ได้ยินคำนี้ไป เขาจะรู้สึกอย่างไร เหมือนกับที่คุณเจอหัวหน้าบอกให้ไปทำงานมาใหม่ คุณจะรู้สึกอย่างไร ใจเขาใจเรานะครับ เราอาจจะใช้คำพูดติดตลกอย่างเช่นว่า "เห้ย ! ผิดแล้วๆ 555 มาๆเดี๋ยวสอนให้ ขอทำงานนี้ให้เสร็จแปปนะ" ลองคิดดูว่าคนฟังเขาจะรู้สึกอย่างไรครับ ขนาดทำงานผิดพลาดยังรู้สึกดีเลย เห็นมั๊ย ?

ผมเคยทำงานผิดพลาดในที่ทำงาน จนพี่ที่ทำงานอุทานออกมาว่าไอเห... หากที่คุณผู้อ่านยังเจอไม่หนักกว่านี้ ขอให้ท่านอดทน และสู้ๆนะครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังสู้ต่อไป ...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น