เมื่อเราลองค้นหาใน Google มักจะเจอผู้คนถามในกระทู้ต่างๆว่า "ทำยังไงถึงจะรวยครับ" "อยากรวยต้องทำธุรกิจใช่มั๊ยครับ" แต่เคยเห็นบ้างมั๊ยว่ามีใครเคยถามบ้างว่าทำยังไงถึงจะไม่จน คงจะหายากมากๆเลยสินะครับ สาเหตุก็เพราะคนที่ถามว่าทำยังไงถึงอยากรวย มักจะมองไปข้างหน้าว่าอนาคตเราจะต้องไปให้ถึงจุดๆนั้นให้ได้ เช่น อยากมีเงิน 100 ล้าน 1,000 ล้าน จึงต้องเสาะแสวงหาแนวทางหรือวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในหุ้น การสร้างธุรกิจ การหารายได้เสริม เป็นต้น เพื่อที่จะบรรลุความต้องการดังกล่าว แต่พอให้ทำเข้าจริงๆก็กลับบ่นว่า ขี้เกียจศึกษา ไม่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ สุดท้ายก็ทำได้แปปเดียวแล้วก็เลิกรากันไป
ผมอยากให้คุณลองเปลี่ยนความคิดมาที่ "ทำยังไงถึงจะไม่จน" ก็เพราะความคิดแบบนี้เป็นการมองไปข้างหลัง เพื่อให้เห็นว่าความจนกำลังไล่ตามเราอยู่ หลายคนคงจะสงสัยว่า แล้วจะเห็นเจ้าความจนนี้ไปเพื่ออะไร ? ผมก็จะตอบว่า เวลาที่คนเราอยู่ในภาวะวิกฤต หรือในภาวะที่ต้องเอาตัวรอด คนเราก็จะมีความพยายามอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องค้นหาวิธีการที่ทำให้สามารถเอาตัวรอดไปให้ได้ มันจะเป็นตัวกระตุ้นให้เราเดินหน้าต่อไปด้วยความพยายามที่เรามีจนถึงที่สุด ในที่นี่ก็คือเจ้าความยากจนที่กำลังไล่ตามเราอยู่ เราจะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อไม่ให้มันตามทัน เราหยุด 1 ก้าว มันก็จะขยับเข้าหาเราอีก 1 ก้าว
หากจะเปรียบความยากจนเป็นอัตราเงินเฟ้อ ก็คงจะพอเปรียบเทียบได้ เพราะโลกทุกวันนี้นี้ต้องเผชิญกับข้าวของที่ราคาแพงขึ้น ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นปีละ 3% นั่นแปลว่าเงิน 100 บาทในวันนี้ หากไม่นำไปลงทุนหรือฝากธนาคาร ใน 1 ปีข้างหน้าเงิน 100 บาทจะเหลือเพียง 97 บาท ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? เพราะข้าวของเครื่องใช้ เมื่อเวลาผ่านไปราคาจะขยับเพิ่มขึ้นนั่นเอง เช่น ปกติเราซื้อข้าว 20 บาท/จาน ผ่านไปอีกปีราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 25 บาท/จาน ทำให้อำนาจซื้อในเงิน 100 บาทลดลง นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าเราเริ่มจนลง เพราะความยากจนไล่ตามเราอยู่ตลอดเวลา

สรุปก็คือ ผมอยากจะให้ทุกคนเปลี่ยนความคิดให้เราทำอะไรก็ได้ให้ไม่จน อย่าให้ความจนไล่ตามเราทัน เพราะการคิดที่เปรียบเสมือนมีสิ่งที่เลวร้ายไล่ตามเราอยู่ตลอดนั้น มันจะทำให้เรารู้สึกกลัวและไม่อยากพบเจอกับสิ่งเลวร้ายนั้น แล้วมันก็จะกระตุ้นให้เราทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากมันนั่นเอง อย่าลืมนะครับว่า " ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที จงทำชีวิตของเราให้มีความสุขที่สุด "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น